FIC Douluo Dalu Soul Land of God's Right Seat

จอส เซนปีแอร์ คาลิเบอร์รุ่นที่10 ผู้นำแห่งกลุ่ม พระเจ้า(God's) ผู้ถูกขนานนามว่า 'ตัวแทนแห่งพระบุตร' เขาเกิดมาพร้อมคุณสมบัติของ 'พลังแห่งพระเจ้า' ตัวแทนแห่งผู้ชำระล้าง ผู้คนส่วนใหญ่ในวาติกันมักจะเรียกเขาว่า 'นักบุญแห่งพระเจ้า' 

นักบุญแห่งพระเจ้า คือมนุษย์ครึ่งพระเจ้าที่เกิดมาด้วยร่างกายและจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่ามนุษย์ธรรมดา โดยมี พระเจ้า(พระคริสต์)เป็นพระบิดาด้วยการสลักรอยสัก รูปไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ไว้ที่กลางหลังตั้งแต่กำเนิด นักบุญแห่งพระเจ้าจะสามารถหยิบยืมพลัง เทเลสม่า(พลังแห่งพระเจ้า) มาไว้ในร่างกายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและสามารถควบคุมมันได้ดั่งใจนึก(แม้นักบุญธรรมดาจะสามารถยืมพลังเทเลสม่าได้เช่นกัน แต่จะไม่สามารถนำเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง ต้องใช้อาวุธตัวแทนที่เรียกว่าซิมโบลิคเวพอน เป็นสื่อกลางจึงจะทำให้มีพลังเหนือมนุษย์ได้ชั่วคราว อารมณ์ก็ราวซุปเปอร์แมน) 

ยามปกติแม้จะไม่ได้ใช้เวทย์มนต์ใดๆ นักบุญแห่งพระเจ้าก็จะมีพรประจำตัวเองติดตัวมาด้วยเสมือ กรณีของจอสก็คือ 'ตัวเลขแห่งนักบุญ' 

อนึ่งแม้นักบุญแห่งพระเจ้าจะสามารถนำพลังแห่งพระเจ้ามาใช้ได้ แต่การควบคุมพลังนั้นทำได้ยากอย่างยิ่ง อีกทั้งที่สุดแล้วร่างกายของนักบุญแห่งพระเจ้าอีกครึ่งก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ดี หากใช้พลังนี้บ่อยมากจนเกินพิกัดจนหลุดการควบคุม ร่างเนื้อก็จะถูกทำลายลง ด้วยเหตุนี้จอสจึงไม่สามารถใช้พลังนี้ได้เต็ม100% 

แต่เรื่องนี้สำหรับจอสแล้วเป็นกรณียกเว้น เพราะตั้งแต่เด็กเขาถือกำเนิดมาจาก 'พระแม่มารี' และมี 'พระคริสต์' เป็นบิดา จึงทำให้ข้อจำกัดเหล่านั้นแทบจะไม่มีผลกับเขาเลย 

(ค่าสเตตัสของ จอส) 

ความแข็งแกร่ง - ??? 

ความคล่องตัว - ??? 

ความทนทาน - ??? 

เทเลสม่า - ??? 

โชค - ??? 

(ความสามารถ) 

1.) เทเลสม่า "พลังแห่งพระเจ้า" - อาคมรูปแบบหนึ่งที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นการดึงเอา พลังแห่งพระเจ้า มาใช้ได้ ผลของมันคือจะ ขจัดหลีกเลี่ยง-เงื่อนไข , ข้อผูกมัด และข้อจำกัดทั้งหมดออกไป ทำให้จอสใช้พลังแห่งพระเจ้าได้เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลทำให้มีทั้งพละกำลังและความเร็วที่เหนือกฏเกณฑ์ทั้งปวง ว่ากันว่าด้วยพลังนี้เองที่ทำให้เขาสามารถอยู่เหนือ 'ความเป็นอนันต์ทั้งปวง' ได้ไม่ยากเย็นนัก

2.) 7 "ตัวเลขแห่งนักบุญ" - ว่ากันว่าเลข7 คือตัวเลขอันเป็นมงคลตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ ซึ่งจอสเองก็มีคุณสมบัติของตัวเลขนี้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด มีผลทำให้เขาสามารถปรับแต่งค่าสเตตัสทั้งหมดของตัวเองได้อย่างอิสระ ไร้ขีดจำกัดโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆทั้งสิ้น แม้กระทั้งตัวเลขของอายุและขนาดร่างกายเขาก็สามารถปรับแต่งได้เช่นกัน 

3.) บุตรแห่งพระคริสต์ - ตัวตนของจอสเสมือนสูญรวมของ 'พระเจ้า' ตามความเชื่อของวาติกัน มีความสามารถทำให้เกิดปาฏิหาริย์และทำลายความชั่วร้ายลงได้ทั้งหมด และมีพลังในการรักษาโรคภัยต่างๆได้เพียงแค่ใช้มือแตะตัวผู้ทุกข์ทรมานเพราะโรคภัยไข้เจ็บ ความสามารถนี้ยังมีพลังอันร้ายกาจอีกอย่างแฝงอยู่ นั้นก็คือ "การพิพากษา" เป็นพลังโจมตีที่อยู่เหนือ 'ความเป็นอนันต์' จนสามารถทำลาย (วิหารเดธทอยเยอร์ ของจอมมารแห่งมิติมืด คาบูม) ที่มีขนาดใหญ่กว่า เขาโอลิมปัส ถึง2เท่าจนราบหายไปได้ในพริบตาด้วยการโจมตีครั้งเดียว 

4.) ผู้ชำระล้าง - แม้จะเป็นพลังที่ยังไม่สมบูรณ์ มันก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้จอสคิดที่จะโจมตีสิ่งใด สิ่งนั้นก็จะ 'สลาย' ไปในทันทีโดยไม่มีสาเหตุ โดยการโจมตีนี้จะไม่มีพลังทำลายใดๆทั้งสิ้น เหมือนเป็นการ 'ชำระล้างของพระเจ้า' การโจมตีนี้ไม่สนระยะทาง ทิศทางหรือตำแหน่งของเป้าหมาย ดังนั้น การจะทำลายโลกหรือดวงอาทิตย์ทิ้งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นสำหรับจอส 

5.) พรแห่งพระแม่มารี - การป้องกันอัตโมัติ โดยเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาจะทำร้ายจอส ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมาจากทิศทางไหน มีความแรงและเร็วเท่าไหร่หรือเกิดขึ้นทันทีหรือไม่ ก็จะโดนทำให้สลายหายไปทันที 'การสั่งตาย' โดยฉับพลันของ ยมทูตโรเบสัน เองก็ไม่สามารถใช้ได้ผลกับความสามารถนี้ด้วยเช่นกัน 

6.) เพลิงสวรรค์ - อาคมในการสร้างดาบไฟของ 'ทูตสวรรค์ไมเคิล' ที่ใช้ในการขับไล่พี่ชายตัวเองลงจากสวรรค์ขึ้นมา โดยที่ตัวดาบมีความยาวสูงสุดถึง 100 กิโลเมตร ดาบไฟนี้สามารถตัดได้ทุกอย่าง แม้กระทั้ง มิติ-เวลา ก็สามารถตัดได้ และดาบไฟนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถทำลายมันลงได้เช่นกัน 

7.) คาราน่า "สะบั้นมิติทั้งปวง" - เวทย์มนต์ซึ่งจะแยกอาณาเขตของ โลก สวรรค์และนรกออกจากกัน ผลของเวทย์นี้ก็ตามชื่อของมันคือพลังในการสะบั้นปวงมิติ ระยะจู่โจมของเวทย์นี้คือ 'ไม่มีที่สิ้นสุด' โดยที่จะไม่มีสิ่งใดป้องกันหรือหลีกเลี่ยงไปได้ 

ความสามารถรองของเวทย์นี้ก็คือการควบคุมซากมวลสารที่หายไปจากการตัดมิติซึ่งจะถูกทิ้งกลับลงมายังโลก ให้ก่อร่างขึ้นมาใหม่ ซึ่งมวลสารทั้งหมดนั้นสามารถประยุกต์ใช้เป็นอาวุธยิง หรือเกราะปัองกันได้ 

8.) พรแห่งเวลา - หนึ่งในรูปแบบเวทย์อย่างหนึ่งที่มีความสามารถทำให้จอส สามารถควบคุมเวลาทั้งหมดได้อย่างใจนึก ไม่ว่าจะ ย้อน เร่ง สโลว์ ตัดเวลา ทำลายเวลา หรือหยุดเวลา เขาก็สามารถทำมันได้อย่างใจนึก และความสามารถจากศัตรูที่เกี่ยวข้องกับเวลาล้วนไม่มีผลกับตัวเขา  

9.) บัลลังก์ยุโรปใต้ - เวทย์โจมตีปริศนาที่ ไม่อาจแสดงออก ไม่อาจอธิบายได้ ไม่อาจทำความเข้าใจได้ และยิ่งความที่ว่าเวทย์นี้แต่เดิมไม่ได้มีไว้ใช้โจมตี ก็ยิ่งทำให้ไม่สามารถอธิบายได้ 

คุณสมบัติพลังนี้ที่เด่นชัดก็คือ ระยะการโจมตีและพลังทำลายล้วนคลุมเครือ มันเป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่ไม่อาจอธิบายได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น 

10.) ตรีเอกภพ "พระเป็นเจ้าพระองค์เดียว" - เวทย์อาคมบทหนึ่งที่เป็นภาวะของ พระเจ้าสามบุคคล ซึ่งได้แก่ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ อาคมนี้จะทำงานในลักษณะของ 'ดวงตาแห่งพระเจ้า' ทั้งสองข้างของจอสที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เมื่อเรียกใช้อาคมนี้มันจะมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงอนาคตเพื่อทำลายช่วงทามป์ไลท์ของเวลาที่กำลังจะเกิดขึ้น(พระบิดา)  สามารถมองเห็นการโจมตีและการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายล่วงหน้าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง(พระบุตร) และยังมีความสามารถในการเลียนแบบพลังความสามารถบางส่วนของศัตรูได้อีกด้วย(พระวิญญาณบริสุทธิ์)

(อาวุธของ จอส) 

ดาบศักดิ์สิทธิ์ อัสคาลอส อาร์ติแฟค 

มีอีกชื่อเรียกว่า 'ดาบที่ไม่มีวันมอดดับ' ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดย 'นักบุญเซ็นต์จอร์จ' เป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการสังหารมังกรผู้ชั่วร้าย (ดราโก้นิคโอเวอร์ลอร์ด) ตัวดาบทั้งหมดถูกตีขึ้นมาจากปีกของ 'ฑูตสวรรค์ไมเคิล' จึงทำให้ตัวของดาบมีความคมและความทนทานที่ไม่มีสิ่งใดจะทำลายลงได้ ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังเวทย์ไหลเวียนในตัวอย่างมหาศาลไร้ขีดจำกันเล่มนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติในการสังหารมังกรและความชั่วร้าย 

ดูเรนดอล "ดาบวิเศษที่ไม่มีดาบใดมีกิติศักดิ์เทียบเท่า" 

ดาบดูเรนดอลเป็น1ใน4ดาบวิเศษในตำนาน บ้างก็ว่ามันเป็น1ใน4ดาบวิศษที่มีพลังอำนาจแห่งลม บ้างก็ว่ามันเป็นดาบที่ไม่มีวันหมองจะแวววาวอยู่ตลอดกาล บ้างก็ว่าเป็นดาบที่ไม่สามารถทำลายได้ 

ดาบวิเศษดูเรนดอลเป็นดาบของอัศวินโลแลนด์ ซึ่งเชื่อกันว่าผู้ครอบครองมันในยุคแรกคือ 'เฮกเตอร์แห่งทรอย' มีบทเพลงที่ชื่อว่า The Song of Roland กล่าวถึงภายในดาบนั้นมีการบรรจุไว้ด้วย วัตถุอาถรรย์ ดังนี้ 'ฟันหนึ่งซี่ของเซนต์ปีเตอร์(แข็งแกร่ง) , เลือดของเซนต์บาซิล(ทนทาน) , เส้นผมของเซนต์เดนนิส(รวดเร็ว) , และชิ้นส่วนอาภรณ์ของพระแม่มารี(คำอวยพร) 

อิซานางิ "เจ้าแห่งสรวงสวรรค์และแสงสว่าง"

ของบรรณาธิการจากสรวงสวรรค์โดยจอสได้รับมอบมันมาจาก 'เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์อามาเทระสึ' ดาบวิเศษที่สร้างมาจากคำอธิษฐานมากมายของเหล่าทวยเทพและตีขึ้นมาจากเสาหลักที่ใช้กั้นระหว่างจักรวาลอันไร้ที่สุด

 ดาบนี้มีความสามารถในการย้อนเวลาได้ ซึ่งจอสได้ใช้ดาบเล่มนี้ในการฟันใส่ 'เอวัล จอมเวทย์แห่งกลียุค' ที่ไม่มีสิ่งใดสังหารเขาได้จนได้รับบาดเจ็บ จากการย้อนไปยังช่วงเวลาที่ เอวัล อ่อนแอที่สุด 

แต่นั้นไม่ใช่พลังที่แท้จริงของดาบวิเศษนี้ มันเป็นดาบที่มีพลังอำนาจในการลบตรรกะทั้งปวง โดยมันจะทำลายทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกฏเกณฑ์ของจักรวาล โชคชะตา ปาฏิหารย์ ไม่ว่าจะทนทานขนาดไหนเป็นนิรันดร์แค่ไหน ไร้ขีดจำกัดเพียงใดก็ตาม อิซานางิก็จะทำลายมันจนสิ้นซาก 

(สปีริตของจอส) 

โอธินุส / ออทินุส

สปีริตปริศนาที่ไม่ทราบระบุที่มาที่ไปประเภทและระดับพลังได้แน่ชัด (แต่คาดได้ว่าระดับพลังของเธอน่าจะทะลุความเป็นอนันต์) ตัวเธอนั้นถือกำเนิดขึ้นจากจิตใต้สำนึกของจอสที่เขาระลึกถึงคนรักของเขาอยู่ตลอดเวลา(โอธิอุสตัวจริงที่เสียชีวิตไป) แม้จะมีลักษณะนิสัยที่คล้ายกันแต่ก็ไม่ใช่ตัวจริง 

 โอธินุสคือหัวหน้ากลุ่ม 'เกลมลิน' ผู้ใช้เวทย์มนต์ของ'โอดินราชาแห่งแอสการ์ด' แต่ตัวเธอกลับเป็นผู้หญิง เธอมีดวงตาข้างเดียวเพราะเธอสละดวงตาอีกข้างเพื่อดื่มน้ำพุแห่งปัญญาตามตำนานโอดินเทพยุโรปเหนือ และจะใส่ที่ปิดจาคล้ายๆโอดินเอาไว้ ช่วงเวลาแรกเธอลงมายังโลกเบื้องล่างเพื่อจะสังหารจอส เธอได้ใช้พลัง 'หอกศักดิ์สิทธิ์กุงเนียร์' ทำให้ทุกคนในโลกหายไปยกเว้นจอส เพื่อที่เธอจะได้ต่อสู้ตัดสินแบบตัวต่อกับเขา และเมื่อทั้งคู่ต่อสู้กันไปกันมาเป็นเวลากว่า100ปีผลที่ออดมามีต่อเสมอทั้งหมด มันจึงทำให้ทั้งคู่เกิดมิตรภาพขึ้นมาและตกหลุมรักกันไปในที่สุด 

และในช่วงเวลาสุดท้ายที่โอธินุสสิ้นใจตาย จากการถูก 'เอวัล' สังหารด้วย'หอกแห่งชะตากรรม' มันจึงทำให้จอสเศร้าเสียใจดับการจากไปของเธออย่างมาก...จนไม่นอนไม่กินเป็นเวลานานนับหลายปี ทุกวันจอสจะอาลัยอาวรณ์ถึงเธอตลอดเวลา สังเกตุได้จากการที่เขาแต่งกายด้วยชุดสุดสีดำเอาไว้ตลอดเวลา

ความสามารถของโอธินุส (ความสามารถนี้ทั้งหมดจอสสามารถดึงมาใช้ได้นะครับ)

เวทย์มนต์ของเทพอาคม - โอธินุสสามารถใช้เวทย์มนต์ทั้งหมด103,000ชนิดที่มีอยู่ในคัมภีร์ต้องห้ามได้ทุกชนิดโดยไม่สนใจผลที่ตามมาและความกว้างของเวทย์มนต์ทั้งหมด จะอยู่ในระยะ1,000กิโลเมตรรอบตัวผู้ใช้ (ซึ่งการที่จะเป็นเทพอาคมได้จึงทำให้ไม่มีอายุขัยเหมือนมนุษย์ทั่วไปจึงทำให้ไม่สามารถตายได้ตามหลักธรรมชาติของมนุษย์ทั่วไป) 

เวทย์มนต์ที่ก้าวข้ามความเป็นไปได้ - โอธินุสนั้นสามารถควบคุมความเป็นไปได้ของทุกสิ่งโดยขึ้นอยู่กับโอกาส 50-50 หากเปลี่ยนแปลงอะไรโดยผิดโอกาส 50-50 มีโอกาสที่จะโดนผลข้างเคียงของเวทย์นี้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ถ้าหากใช้ร่วมกับ กุงเนียร์ จะเพิ่มโอกาสของความเป็นไปได้จาก 50-50 เป็น 100-0 แทนโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น 

กุงเนียร์ - หอกลำแสงทองคำอาวุธของเทพโอดินในสภาพ100% ด้วยการเสริม เทเลสม่า เข้าไปเป็นตัวช่วย มีความสามารถในการควบคุมธรรมชาติทั้งหมดบนโลก อย่างเช่นการสร้างภัยพิบัติครั้งใหญ่ในหลายๆที่พร้อมกัน หรือทำลายโลกทั้งใบทิ้งได้อย่างง่ายดาย 

โดยการโจมตีของกุงเนียร์จะไม่มีวันพลาดเป้าไม่ว่าจะหลบหลีกด้วยวิธีไหนก็ตามอีกทั้งยังมีความเร็วที่เร็วกว่าเป้าหมายเสมอด้วย แต่ถ้าหากเป้าหมายสามารถหลบได้ผลที่จะตามมานั้นก็คือการล่มสลายของดาวทั้งดวงที่จะเกิดขึ้นหลังจากการโจมตี และด้วยผลของ 100-0 ของหอกวิเศษนี้ จึงทำให้เธอสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งใน 'พหุจักรวาลอันไร้ที่สิ้นสุด' ได้อย่างไม่มีเงื่อนไข(จะทำลายทิ้งก็ยังทำได้แบบสบายๆ) 

Boneboat - กระดูกที่อยู่ในหมวกของโอธินุส มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายสถานที่ที่ต้องการให้มาหาตนเอง โดยที่จะไม่ทับซ้อนกับสถานที่เดิม (เคลื่อนที่ไปสถานที่ต่างๆด้วยการหมุนโลกทั้งใบเพื่อไปยังที่หมายโดยที่คนอื่นจะไม่ได้รับผลนี้ด้วย) 

Othinus Crossbow - อาวุธเวทย์มนต์รูปร่างคล้ายปีกที่จะปรากฏออกมาเป็นปีกขนาดยักษ์ที่กลางหลัง ก่อนจะแปรสภาพให้กลายเป็นหน้าไม้โดยจะมีอยู่ข้างละ5ปีก และจะบรรจุลูกดอกที่ดึงพลังแห่งการคงอยู่ของโลกมาเป็นพลังทำลายให้กับลูกดอกที่บรรจุเอาไว้ โดยแต่ละปีกจะบรรจุเอาไว้1ลูก พลังทำลายในแต่ละนัดสามารถทำลายโลกทั้งใบได้และหากใช้งานมากครั้งจะยิ่งส่งผลเสียแก่โลกซึ่งหมายถึงเวลาการคงอยู่ของโลกจะลดลงไปทุกครั้งที่ใช้งาน (เหมือนๆเมื่อมนุษย์ตายด้วยอายุขัยหมดได้ โลกก็จบลงสิ้นลงด้วยอายุขัยหมดได้เช่นกัน)